ลูกเข้าเตรียมอนุบาล 4 วิธีเตรียมพร้อม เมื่อลูกน้อยจะเข้าโรงเรียนอนุบาล ครั้งแรก

ลูกเข้าเตรียมอนุบาล 4 วิธีเตรียมพร้อม เมื่อลูกน้อยจะเข้าโรงเรียนอนุบาล ครั้งแรก วิธีรับมือเจ้าตัวแสบ วิธีเตรียมพร้อม เมื่อลูกน้อยจะเข้าโรงเรียน 4 วิธีรับมือเจ้าตัวแสบ โบราณกล่าวเอาไว้ว่า มีลูก 1 คนจนไป 7 ปี ไม่ว่าจะก่อนที่จะคลอด หลังคลอดตอนเป็นทารก และหนักสุดคือก่อนจะเข้าโรงเรียน

ทั้งหมดล้วนเป็นรายจ่ายที่ต้องปาดเหงื่อทั้งนั้น ใครที่คิดจะมีลูกควรเตรียมความพร้อมให้ครบทุกด้าน ทั้งในเรื่องของเวลาที่เราต้องมีให้ และในเรื่องค่าใช่จ่ายต่างๆ ที่เราสามารถรองรับได้ เพื่อให้ลูกๆ ของเรามีคุณภาพมากที่สุด

แน่นอนว่ามันไม่เรื่องง่ายๆ กับการฝึกเด็กให้ไปโรงเรียน เพราะเด็กเหล่านี้จะมีปัญหาตามมาอีกมากมายเมื่อได้เข้าโรงเรียน เพราะว่าตอนอยู่บ้านเขาไม่ต้องพบเจออะไรที่เหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือพบเจอเหตุการณ์อะไรที่ต้องแก้ไขเอง เพราะมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแล

แต่เมื่อเขาโรงเรียนแล้ว คุณไม่สามารช่วยอะไรเขาได้ และในวันนี้เราจะแนะนำในเรื่องของการเตรียมให้กับลูก ก่อนที่พวกเข้าจะเข้าเรียนกัน — ลูกเข้าเตรียมอนุบาล


วิธีเตรียมเข้าอนุบาล

1.รู้จักเข้าสังคม

ในช่วงที่อยู่ที่บ้านเด็กไม่จำเป็นต้องเข้าสังคมอะไรมากมาย แต่เป็นสังคมที่ปรับเข้าหาตัวเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องทุกคนล้วนเอาใจใส่ และคอยช่วยเหลือตลอดเวลา แต่ว่าเมื่อต้องเข้าเรียนทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

วิธีง่ายๆ ก่อนเข้าวัยเรียนคุณแม่ควรพาเด็กไปเข้าสังคมเบื้องต้นแบบง่าย เช่นการทำความรู้จักเพื่อนบ้าน หรือการไปเล่นสนามเด็กเล่นให้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ เพื่อป้องกันกัญหาการเข้าสังคมไม่ได้เมื่อเข้า


วิธีเตรียมอนุบาล

2. ช่วยเหลือตัวเอง

เมื่อยู่บ้านไม่ว่าจะเรื่องคุณพ่อคุณแม่ก็จะดูแล และช่วยเหลือได้ทุกเรื่อง แต่เมื่อเข้าโรงเรียนแล้วเด็กต้องรู้จักช่วยเหลือตนเองเท่านั้น ต้องฝึกให้เขารู้ขับถ่ายให้เป็นเวลา ถ้าจะให้ดีที่สุดควรฝึกให้เด็กรู้จักขับถ่ายในทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน และสามารถทานอาหารเองได้แบบไม่เลอะเทอะ เป็นต้น [ ทารกท้องเสีย ]


เตรียมเรียนโรงเรียนอนุบาล

3. ร่างกายที่ไม่แข็งแรง

ในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ และรู้เกี่ยวกับร่างกายของลูกว่าแพ้อะไรบ้าง เพราะว่าเมื่อเข้าโรงเรียนต้องพบเจอคนที่หลากหลาย อาจจะไปติดเชื้อโรค ไข้ หรืออาการต่างๆ ที่ทำให้สิ่งผิดปกติต่อร่างกายของเด็ก ทางที่ดีควรได้รับวัคซีนป้องกันพื้นฐานอย่างครบถ้วนก่อนเข้าเรียน [ ทารกไม่ถ่าย ]


เตรียมอนุบาล

4.เรียนรู้ที่จะสนุก

เด็กหลายคนกลัว และแน่นอนว่าเกือบทุกคนจะต้องร้องไห้ในวันแรก พยายามบอกเล่าถึงความสนุกสนาน และสิ่งที่เด็กๆ จะได้รับในการเข้าเรียน เช่นกันได้พบเพื่อนใหม่ การได้เล่นของเล่นมากมาย และการได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจ

สิ่งเหล่านี้เราสามารถฝึกเด็กๆ ได้ตั้งแต่มีอายุ 1 ขวบ ไม่จำเป็นว่าต้องรอก่อนเข้าเรียนแล้วค่อยฝึก คุณแม่สามารถเริ่มได้เลย เพื่อให้เด็กๆ มีระยะเวลาในการปรับตัว จนกลายเป็นนิสัยที่จะเอาไว้ใช้แสดงออกเมื่อถึงวัยเข้าเรียน


4 สิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมตัว ก่อนลูกๆ จะเข้าเรียน


ลูกเข้าเตรียมอนุบาลกี่ขวบ

1.ค่าใช้จ่าย

นี่คือปัญหาที่ทุกคนต้องเจอ ควรเลือกโรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายได้ของตัวเอง บางคนมีรายได้ไม่มากแต่อยากให้ลุกได้อยู่ในสังคมที่มีแต่ลูกคนรวย อาจทำให้ครอบครัวต้องลำบาก หากคุณไม่มีเงินที่มากพอ เด็กก็สามารถเข้าโรงเรียนวัด โรงเรียนวัดก็สร้างเด็กที่มีคุณภาพมาแล้วมากมาย สำหรับเด็กในวัยอนุบาล เรื่องของสังคมที่หรูหราไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นที่เขาต้องได้รับ


เตรียมของใช้อนุบาล

2.การเรียนการสอน

นี่สิที่เป็นที่สำคัญมากที่สุด ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าจะให้ลุกเข้าเรียนที่ไหน คุณควรศึกษาอย่างละเอียดถึงวิธีการเรียนการสอน เครื่องมือต่างๆ ทางที่ดีคุณควรไปดูการสอนด้วยตนเองเพื่อประกอบการตัดสินใจจึงจะดีที่สุด


เตรียมอนุบาลที่ไหนดี

3.ไม่กดดันลูก

การเรียนอนุบาลเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น การเริ่มต้นได้ดีทำให้ลูกของเราสามารถออกตัวเร็วกว่าคนอื่น แต่ว่าทั้งหมดนั้นต้องไม่กดดันตัวเด็ก พ่อแม่บางคนอยากให้ลูกได้ดี อยากให้ลูกฉลาด จนลืมไปว่าเด็กยังอายุน้อยเกินไป เกินกว่าที่จะมาใส่เรื่องพวกนี้ เด็กในวันนี้สิ่งสำคัญมากที่สุดคือสุขภาพ และสุขภาพจิตใจ

การเล่นช่วยให้เขามีพัฒนาการทางด้านความคิดสร้างสร้าง การเรียนรู้ที่เกิดจากความสมัครใจเท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาได้อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นคุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลาย อย่าเพิ่งคาดหวังอะไร และจงปล่อยให้เด็กเป็นเด็กตามวัยจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับตัวของเด็กๆ เอง


ลูกเข้าเตรียมอนุบาล ทำไงดี

4. การพูดคุย

การพูดคุยของพ่อแม่นั้นจะส่งผลมากต่อพัฒนาการ และนิสัยของเด็ก ถ้าใช้คำหยาบ หรือใช้น้ำเสียงตะคอด พูดจารุนแรง หรือพยายามสั่งให้เด็กๆ ทำอย่างที่เราต้องการ เมื่อเข้าโรงเรียนแน่นอนว่าเด็กๆ จะเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้กับเพื่อน ทำให้ไม่สามารถเข้าสังคมได้ ไม่เป็นที่รักของเพื่อน

จนมีปัญหาในเรื่องของการปรับ ชอบอยู่คนเดียวมากขึ้น พูดน้อยลง ซึมเศร้า หรืออาจะไปในทางที่ชอบใช้ความรุนแรง ตีเพื่อน โวยวายจะเอาให้ได้ดั่งใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าหนักใจมากที่สุด เพราะสาเหตุทั้งหมดมาจากเลี้ยงดูของเราเอง